Position:home  

ลิ้มรสความแซ่บ จัดจ้านถึงใจ กับ แจ่วฮ้อนเนื้อ เมนูเด็ดจากอีสาน

ร้อนแรงท้าลมหนาว กับเมนูสุดแซ่บจากแดนอีสานอย่าง แจ่วฮ้อนเนื้อ ที่จะมาเผาผลาญความหนาวเย็นให้หายหนาวกันเลยทีเดียว น้ำซุปแซ่บจัดจ้านที่ปรุงจากพริกขี้หนูสด มะนาว และปลาร้า หมักเข้ากับเนื้อวัวชั้นดี พร้อมเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงครบครัน ไม่ว่าจะเป็นผักสลัด ไข่เป็ด และเส้นขนมจีน แค่คิดก็ฟินแล้ว

ประโยชน์ทางโภชนาการของแจ่วฮ้อนเนื้อ

แจ่วฮ้อนเนื้อเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ได้แก่

  • โปรตีน: จากเนื้อวัว ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
  • วิตามินและแร่ธาตุ: น้ำซุปแจ่วฮ้อนอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินบี12 และแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก และโพแทสเซียม
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: พริกขี้หนูสดในน้ำซุปมีสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

ตารางคุณค่าทางโภชนาการของแจ่วฮ้อนเนื้อ

สารอาหาร ปริมาณต่อ 100 กรัม
พลังงาน 120 กิโลแคลอรี
โปรตีน 10 กรัม
ไขมัน 5 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม
วิตามินซี 30 มิลลิกรัม
แคลเซียม 100 มิลลิกรัม
เหล็ก 2 มิลลิกรัม

วิธีทำแจ่วฮ้อนเนื้อแสนอร่อย

ส่วนผสม:

  • เนื้อวัวหั่นเป็นชิ้นบางๆ 500 กรัม
  • น้ำปลาร้า 1 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
  • พริกขี้หนูสดเม็ดใหญ่ 10-15 เม็ด
  • หอมแดง 5-6 หัว
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • รากผักชี 1 ราก
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • ผักสลัดสำหรับเสิร์ฟ

วิธีทำ:

แจ่ว ฮ้อ น เนื้อ

ลิ้มรสความแซ่บ จัดจ้านถึงใจ กับ แจ่วฮ้อนเนื้อ เมนูเด็ดจากอีสาน

  1. โขลกพริกขี้หนู หอมแดง กระเทียม รากผักชี และตะไคร้ให้ละเอียด
  2. ต้มน้ำให้เดือดใส่พริกที่โขลกไว้ลงไป ตามด้วยใบมะกรูด น้ำปลาร้า และน้ำมะนาว ปรุงรสตามชอบ
  3. ใส่เนื้อวัวลงไปลวกจนสุก
  4. เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงผักสลัด ไข่เป็ด และเส้นขนมจีน

เคล็ดลับความอร่อยของแจ่วฮ้อนเนื้อ

  • เลือกใช้เนื้อวัวที่มีคุณภาพดี นุ่ม ไม่เหนียว
  • น้ำปลาร้าที่ใช้ควรเป็นน้ำปลาร้าปรุงสุกแล้ว เพื่อความปลอดภัย
  • เติมความแซ่บด้วยการใส่พริกขี้หนูสดเพิ่มลงไปได้ حسب الرغبة
  • เสิร์ฟแจ่วฮ้อนเนื้อขณะที่ร้อนๆ จะอร่อยที่สุด

เรื่องขำขันเกี่ยวกับแจ่วฮ้อนเนื้อ

เรื่องที่ 1:

หนุ่มสาวคู่หนึ่งไปกินแจ่วฮ้อนเนื้อที่ร้านอาหาร ในขณะที่กำลังกินไปเรื่อยๆ หญิงสาวก็พูดขึ้นว่า "ที่รัก จริงๆ แล้วหนูแพ้พริกขี้หนู" ชายหนุ่มตอบกลับอย่างใจเย็นว่า "ไม่เป็นไรที่รัก พริกขี้หนูไม่ได้แซ่บเท่าเธอหรอก"

เรื่องที่ 2:

ประโยชน์ทางโภชนาการของแจ่วฮ้อนเนื้อ

ชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งนั่งกินแจ่วฮ้อนเนื้อกันอย่างเมามัน พลางคุยกันไปเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า "พี่ๆ รู้ไหมว่าทำไมแจ่วฮ้อนเนื้อถึงเผ็ดจัง" อีกคนตอบว่า "เพราะพริกลูกมันเอาจริง"

แจ่วฮ้อนเนื้อ

เรื่องที่ 3:

หญิงสาวกำลังกินแจ่วฮ้อนเนื้ออยู่ที่บ้านคนเดียว พอตักน้ำซุปเข้าปากก็ถึงกับร้อง "โอ๊ย! แซ่บจนไฟแลบ" ขณะที่พูดก็มีไฟแลบออกมาจากปากจริงๆ สุนัขในบ้านตกใจวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น

ข้อดีและข้อเสียของการกินแจ่วฮ้อนเนื้อ

ข้อดี:

  • อร่อยแซ่บ จัดจ้านถึงใจ
  • อุดมไปด้วยสารอาหาร
  • ช่วยเผาผลาญไขมันได้

ข้อเสีย:

  • กินมากไปอาจทำให้ท้องเสียได้
  • บางคนอาจแพ้พริกขี้หนู
  • กินบ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดโรคกระเพาะได้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. แจ่วฮ้อนเนื้อแตกต่างจากสุกี้เนื้ออย่างไร?

แจ่วฮ้อนเนื้อใช้น้ำปลาร้าหมักปรุงรส และมีส่วนผสมของเครื่องเทศ และสมุนไพรต่างๆ มากกว่าสุกี้เนื้อ

2. แจ่วฮ้อนเนื้อมีกี่แคลอรี?

ปริมาณแคลอรีของแจ่วฮ้อนเนื้อแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับส่วนผสมและปริมาณที่กิน โดยทั่วไป 100 กรัม มีประมาณ 120 กิโลแคลอรี

3. แจ่วฮ้อนเนื้อเหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักหรือไม่?

ไม่ค่อยเหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนัก เนื่องจากมีปริมาณแคลอรีและไขมันค่อนข้างสูง

4. สามารถเก็บแจ่วฮ้อนเนื้อไว้ได้นานแค่ไหน?

ควรเก็บในตู้เย็นและกินให้หมดภายใน 2-3 วัน

5. แจ่วฮ้อนเนื้อกินคู่กับอะไรได้บ้าง?

สามารถกินคู่กับผักสลัด ไข่เป็ด เส้นขนมจีน หรือข้าวเหนียวก็ได้

6. คนที่แพ้กุ้งสามารถกินแจ่วฮ้อนเนื้อได้หรือไม่?

ได้ เนื่องจากแจ่วฮ้อนเนื้อไม่ได้มีส่วนผสมของกุ้ง

Time:2024-09-04 16:26:28 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss