Position:home  

น้ำปลาหวานโบราณ สูตรต้นตำรับเคล็ดลับความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น

น้ำปลาหวาน ถือเป็นอาหารโบราณของไทยที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีรสชาติหวาน กลมกล่อม หอมกลิ่นหอมเจียว เป็นน้ำจิ้มที่นิยมรับประทานคู่กับหลายๆเมนู ไม่ว่าจะเป็น หอยทอด ปอเปี๊ยะทอด ขนมจีน และเนื้อปลาทอด เป็นต้น ทำให้น้ำปลาหวานเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยมาอย่างยาวนาน

น้ำปลาหวานนอกจากจะเป็นน้ำจิ้มที่ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารต่างๆ เนื่องจากมีส่วนประกอบหลักจาก น้ำปลา ถั่วฝักยาว กระเทียม พริก และส่วนผสมอื่นๆที่มีประโยชน์อีกมากมาย ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยบำรุงร่างกาย และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี

ประวัติความเป็นมาของน้ำปลาหวาน

ต้นกำเนิดของน้ำปลาหวานนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดขึ้นในสมัยอยุธยา โดยมีหลักฐานจากตำราอาหารโบราณที่กล่าวถึงเมนูน้ำปลาหวาน ซึ่งในสมัยนั้นน้ำปลาหวานถือเป็นอาหารชั้นสูงที่นิยมรับประทานในหมู่เจ้านายและชนชั้นสูงเท่านั้น

น้ําปลาหวาน โบราณ

ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ น้ำปลาหวานได้แพร่หลายสู่สามัญชนมากขึ้น โดยมีการดัดแปลงสูตรและส่วนผสมให้มีความหลากหลายมากขึ้นตามแต่ละท้องถิ่น ทำให้ปัจจุบันน้ำปลาหวานมีสูตรและรสชาติที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาคของไทย

น้ำปลาหวานโบราณ สูตรต้นตำรับเคล็ดลับความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น

น้ำปลาหวานโบราณ

น้ำปลาหวานโบราณนั้นจะมีลักษณะ ใส มีสี เหลืองอ่อน มีกลิ่น หอมเจียว และมีรสชาติ หวาน กลมกล่อม ซึ่งความแตกต่างของน้ำปลาหวานโบราณกับน้ำปลาหวานทั่วไปนั้นอยู่ที่ ส่วนผสมและวิธีการปรุง โดยน้ำปลาหวานโบราณจะใช้ส่วนผสมหลักจาก ถั่วฝักยาว ที่นำไป ซอยละเอียด และ เจียวในน้ำมันจนกรอบ จากนั้นนำมา โขลกหรือปั่น ให้ละเอียดผสมกับ น้ำปลา ที่ เคี่ยวจนได้ที่ แล้วจึงปรุงรสชาติด้วย น้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก พริกขี้หนู และส่วนผสมอื่นๆตามสูตร

เคล็ดลับความอร่อยของน้ำปลาหวานโบราณ

  1. เลือกใช้ถั่วฝักยาวที่อ่อนและสดใหม่ เพื่อให้ได้น้ำปลาหวานที่มีสีสวยและรสชาติหวานอร่อย
  2. ซอยถั่วฝักยาวให้ละเอียด เพื่อให้เจียวได้กรอบทั่วถึง
  3. เจียวถั่วฝักยาวในน้ำมันร้อน เพื่อให้ถั่วฝักยาวกรอบและมีสีเหลืองทองสวยงาม
  4. เคี่ยวน้ำปลาจนได้ที่ เพื่อให้น้ำปลาหวานมีรสชาติที่กลมกล่อมและหอม
  5. ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก และพริกขี้หนู ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้น้ำปลาหวานที่มีรสชาติหวาน กลมกล่อม และเผ็ดเล็กน้อย

สูตรน้ำปลาหวานโบราณ

ส่วนผสม

  • ถั่วฝักยาว 1 กิโลกรัม
  • น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วยตวง
  • พริกขี้หนู 10 เม็ด
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • หอมแดง 5 หัว

วิธีทำ

  1. ซอยถั่วฝักยาวให้ละเอียด
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันและนำถั่วฝักยาวลงไปเจียวจนเหลืองกรอบ
  3. โขลกหรือปั่นถั่วฝักยาวที่เจียวแล้วให้ละเอียด
  4. ใส่น้ำปลาลงในกระทะและเคี่ยวจนได้ที่
  5. ใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก พริกขี้หนู กระเทียม และหอมแดงลงไปผัดให้เข้ากัน
  6. ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก และพริกขี้หนูตามสัดส่วนที่เหมาะสม
  7. เคี่ยวต่อไปจนน้ำปลาหวานเหนียวข้นและได้ที่

คุณค่าทางโภชนาการของน้ำปลาหวาน

น้ำปลาหวานโบราณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 120 กิโลแคลอรี และมีสารอาหารต่างๆ ดังนี้

  • โปรตีน 5 กรัม
  • ไขมัน 5 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม
  • แคลเซียม 100 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 120 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 2 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 1,000 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 10 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของน้ำปลาหวาน

  • ช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร
  • ช่วยบำรุงร่างกาย
  • ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

ข้อควรระวังในการรับประทานน้ำปลาหวาน

  • ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคไตควรจำกัดการรับประทานน้ำปลาหวาน เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำปลาที่มีโซเดียมสูง
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรจำกัดการรับประทานน้ำปลาหวาน เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำตาลมะพร้าวที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง

การเก็บรักษาน้ำปลาหวาน

  • น้ำปลาหวานสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 1 สัปดาห์
  • หากต้องการเก็บไว้ได้นานกว่านั้น สามารถแช่แข็งได้ประมาณ 1 เดือน

ตารางเปรียบเทียบน้ำปลาหวานโบราณกับน้ำปลาหวานทั่วไป

น้ำปลาหวานโบราณ สูตรต้นตำรับเคล็ดลับความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น

ลักษณะ น้ำปลาหวานโบราณ น้ำปลาหวานทั่วไป
สี เหลืองอ่อน เหลืองเข้ม
เนื้อสัมผัส ใส ข้น
กลิ่น หอมเจียว หอมกระเทียม
รสชาติ หวาน กลมกล่อม หวาน เผ็ด
ส่วนผสม ถั่วฝักยาว กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู พริก กระเทียม น้ำตาล
วิธีการปรุง ซอยถั่วฝักยาว เจียว โขลกหรือปั่น เคี่ยว ซอยพริก กระเทียม เจียว ผัด

ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของน้ำปลาหวาน

สารอาหาร ปริมาณต่อ 100 กรัม
พลังงาน 120 กิโลแคลอรี
โปรตีน 5 กรัม
ไขมัน 5 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม
แคลเซียม 100 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 120 มิลลิกรัม
เหล็ก 2 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 1,000 ไมโครกรัม
วิตามินซี 10 มิลลิกรัม

ตารางการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของน้ำปลาหวานโบราณและน้ำปลาหวานทั่วไป

ลักษณะ น้ำปลาหวานโบราณ น้ำปลาหวานทั่วไป
ข้อดี มีกลิ่นหอมเจียว รสชาติหวาน กลมกล่อม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง รสชาติหวาน เผ็ด จัดจ้าน มีราคาถูกกว่า
ข้อเสีย มีกรรมวิธีการปรุงที่ยุ่งยากกว่า รสชาติหวานน้อยกว่า มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่า

**คำถามที่พ

Time:2024-09-04 18:32:05 UTC

newthai   

TOP 10
Don't miss