Position:home  

ตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธสิหิงค์

พระพุทธสิหิงค์ คือพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่ได้รับการเคารพนับถืออย่างสูงในประเทศไทย มีตำนานเล่าขานถึงการสร้างและความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปองค์นี้ที่สืบทอดกันมาช้านาน

ประวัติการสร้าง

ตามตำนานพระพุทธสิหิงค์ได้สร้างขึ้นโดยพระโสณเถระและพระอุตตรเถระจากสำริด 32 กิโลกรัม (70 ปอนด์) ที่เมืองปาตลีบุตร ประเทศอินเดียในปี พ.ศ. 288 หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 218 ปี พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดความกว้างหน้าตัก 24 นิ้ว (61 ซม.) และสูง 39 นิ้ว (99 ซม.)

การอัญเชิญมายังลังกาและไทย

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 5 พระพุทธสิหิงค์ได้อัญเชิญไปยังเกาะลังกาโดยพระภิกษุจากเมืองนครศรีธรรมราช ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 893 พระมหากษัตริย์แห่งลังกา คือ พระเจ้านราสินหวเทพ ได้ถวายพระพุทธสิหิงค์กลับคืนแก่พระเจ้าศิริชัยศิลาอาทิตย์ กษัตริย์แห่งอาณาจักรศรีวิชัยในเมืองนครศรีธรรมราช พระพุทธสิหิงค์จึงถูกอัญเชิญกลับมายังเมืองนครศรีธรรมราช และเป็นพระประธานในพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ประวัติ พระพุทธ สิ หิ ง ค์

ย้ายไปกรุงเทพฯ

ในปี พ.ศ. 2327 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ไปประดิษฐานที่กรุงเทพฯ เนื่องจากมีการคุกคามจากพม่า พระพุทธสิหิงค์ได้อัญเชิญทางเรือไปตามลำน้ำปากพนัง แม่น้ำตาปี แม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นได้ประดิษฐานที่วัดพระแก้วในกรุงเทพฯ

การบูรณะ

พระพุทธสิหิงค์ได้ผ่านการบูรณะหลายครั้งเพื่อรักษาและป้องกันการสึกหรอ ในปี พ.ศ. 2014 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่อันเนื่องมาจากการประทับเรือขนส่งทางน้ำเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการสึกกร่อนของผิวสำริด ในการบูรณะครั้งนี้ได้มีการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและเคลือบผิวใหม่ด้วยทองคำแท้

ความศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อ

พระพุทธสิหิงค์เป็นที่เคารพนับถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีพุทธานุภาพในการปกป้องคุ้มครอง ประชาชนทั่วทั้งราชอาณาจักรไทย ให้พ้นจากภัยพิบัติและศัตรูรุกราน เชื่อกันว่าผู้ที่ได้สักการะพระพุทธสิหิงค์จะประสบโชคลาภและความสุขความเจริญ

ตารางสรุปประวัติพระพุทธสิหิงค์

ข้อมูล รายละเอียด
สร้างโดย: พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ
ปีที่สร้าง: พ.ศ. 288
ขนาด: หน้าตัก 24 นิ้ว (61 ซม.), สูง 39 นิ้ว (99 ซม.)
วัสดุ: สำริด 32 กิโลกรัม (70 ปอนด์)
ที่สร้าง: เมืองปาตลีบุตร ประเทศอินเดีย
อัญเชิญไปลังกา: กลางศตวรรษที่ 5
อัญเชิญกลับไทย: พ.ศ. 893
ประดิษฐานที่นครศรีธรรมราช: พระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช
อัญเชิญไปกรุงเทพฯ: พ.ศ. 2327
ประดิษฐานที่กรุงเทพฯ: วัดพระแก้ว

ความสำคัญของพระพุทธสิหิงค์

พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทย มีความสำคัญดังนี้

  • สัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจ: พระพุทธสิหิงค์เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และพุทธานุภาพ เชื่อกันว่าสามารถปกป้องคุ้มครองประชาชนและแผ่นดินไทยได้
  • ศูนย์กลางทางจิตใจของชาวไทย: พระพุทธสิหิงค์เป็นศูนย์กลางทางจิตใจของชาวไทยทั้งประเทศ ผู้คนมากมายมาสักการะเพื่อขอพรและความช่วยเหลือ
  • มรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่า: พระพุทธสิหิงค์เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของไทย เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของงานช่างฝีมือสมัยโบราณ
  • ตัวแทนความสัมพันธ์ระหว่างไทยและศรีลังกา: พระพุทธสิหิงค์เป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างไทยและศรีลังกา ซึ่งทั้งสองประเทศมีความผูกพันทางพุทธศาสนาและวัฒนธรรม

การสักการะพระพุทธสิหิงค์

ผู้ที่ต้องการสักการะพระพุทธสิหิงค์สามารถเข้าชมได้ที่วัดพระแก้วในกรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึง 16.30 น. ผู้เข้าชมควรแต่งกายสุภาพและปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด

ตารางสรุปความสำคัญของพระพุทธสิหิงค์

ความสำคัญ รายละเอียด
สัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจ: เชื่อว่าสามารถปกป้องคุ้มครองประชาชนและแผ่นดินไทยได้
ศูนย์กลางทางจิตใจของชาวไทย: ผู้คนมากมายมาสักการะเพื่อขอพรและความช่วยเหลือ
มรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่า: เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของงานช่างฝีมือสมัยโบราณ
ตัวแทนความสัมพันธ์ระหว่างไทยและศรีลังกา: เป็นตัวแทนของความผูกพันทางพุทธศาสนาและวัฒนธรรม

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง

เมื่อสักการะพระพุทธสิหิงค์ มีข้อผิดพลาดทั่วไปบางประการที่ควรหลีกเลี่ยง

ตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธสิหิงค์

  • แต่งกายไม่สุภาพ: ผู้เข้าชมควรแต่งกายสุภาพ เช่น กางเกงขายาว เสื้อเชิ้ต หรือกระโปรงยาว ผ้าถุง
  • ถ่ายรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต: ห้ามถ่ายรูปพระพุทธสิหิงค์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่วัด
  • สัมผัสพระพุทธสิหิงค์: ห้ามสัมผัสพระพุทธสิหิงค์โดยไม่ได้รับอนุญาต
  • พูดเสียงดังหรือทำตัวไม่เคารพ: ควรประพฤติตัวอย่างสงบและเคารพสถานที่

ขั้นตอนการสักการะพระพุทธสิหิงค์

การสักการะพระพุทธสิหิงค์มีขั้นตอนดังนี้

  1. เตรียมตัว: แต่งกายสุภาพและเตรียมเครื่องสักการะ เช่น ธูปเทียนดอกไม้
  2. เข้าชมวัด: เข้าชมวัดพระแก้วและเดินไปยังพระอุโบสถ
  3. สักการะพระพุทธสิหิงค์: กราบพระพุทธสิหิงค์สามครั้ง แล้วถวายเครื่องสักการะ
  4. นั่งสมาธิหรือสวดมนต์: นั่งสมาธิหรือสวดมนต์เพื่อขอพรหรืออุทิศบุญ
  5. เดินเวียนรอบพระอุโบสถ: เดินเวียนรอบพระอุโบสถสามรอบตามเข็มนาฬิกา
  6. ออกจากวัด: ออกจากวัดอย่างสงบและเคารพสถานที่

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. พระพุทธสิหิงค์ทำจากอะไร?
พระพ

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss