ไขเคล็ดลับ วิธีทำน้ำยาใต้ สูตรเด็ด รสชาติเข้มข้นถึงใจ
น้ำยาใต้ เป็นอาหารใต้ขึ้นชื่อที่มีรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ดครบรส เป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยทั่วไปน้ำยาใต้จะทำจากเครื่องแกงเผ็ดใต้ ใส่เนื้อสัตว์ ผัก และกะทิ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเมนูนี้ วันนี้เราจะมาแชร์วิธีทำน้ำยาใต้สูตรเด็ดแสนอร่อย พร้อมเคล็ดลับดีๆ ให้คุณได้นำไปลองทำตามได้ที่บ้าน รับรองว่าทำตามแล้วจะได้น้ำยาใต้รสชาติเข้มข้นถึงใจเหมือนกินที่ร้านดังแน่นอน
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำยาใต้
ส่วนที่ 1: เครื่องแกงเผ็ดใต้
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ 100 กรัม
- หอมแดง 100 กรัม
- กระเทียม 50 กรัม
- กะปิ 50 กรัม
- ขมิ้น 10 กรัม
- ตะไคร้ 3 ต้น
- ใบมะกรูด 10 ใบ
- เกลือ 1 ช้อนชา
ส่วนที่ 2: ส่วนประกอบอื่นๆ
- เนื้อสัตว์ตามชอบ เช่น ไก่ หมู กุ้ง ปลา (500 กรัม)
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- ใบมะกรูดฉีก 1 หยิบมือ
- พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 5-7 เม็ด
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
วิธีทำน้ำยาใต้
- ทำเครื่องแกงเผ็ดใต้
- นำพริกแห้งแช่น้ำไว้ 15 นาที
- โขลกหอมแดง กระเทียม กะปิ ขมิ้น ตะไคร้ ใบมะกรูด และเกลือจนละเอียด
- เพิ่มพริกแห้งที่แช่น้ำแล้วลงไปโขลกจนละเอียดเข้ากันดี
- ผัดเครื่องแกง
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช นำเครื่องแกงเผ็ดใต้ที่โขลกไว้ลงไปผัดจนหอม
- ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดให้สุก
- ใส่กะทิและส่วนประกอบอื่นๆ
- เทกะทิลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก
- ใส่ใบมะกรูดฉีกและพริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบลงไป
- เคี่ยวจนได้ที่
- เคี่ยวน้ำยาใต้ด้วยไฟอ่อนประมาณ 15-20 นาที หรือจนน้ำแกงข้นได้ที่
- ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามชอบ
เคล็ดลับการทำน้ำยาใต้ให้แซ่บ
-
เลือกใช้เครื่องแกงเผ็ดใต้คุณภาพดี: เครื่องแกงเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติของน้ำยาใต้ เลือกใช้เครื่องแกงเผ็ดใต้จากร้านที่เชื่อถือได้ หรือทำเองก็ได้
-
ผัดเครื่องแกงให้นาน: การผัดเครื่องแกงให้นานจะช่วยให้เครื่องแกงหอมและรสชาติเข้มข้นมากขึ้น
-
ใส่กะทิทีละน้อย: การใส่กะทิทีละน้อยจะช่วยให้น้ำยาใต้ไม่แตกมันและข้นได้ที่
-
เคี่ยวให้ได้ที่: การเคี่ยวน้ำยาใต้ด้วยไฟอ่อนเป็นเวลานานจะช่วยให้น้ำแกงข้นและรสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น
-
ปรุงรสตามชอบ: น้ำยาใต้เป็นอาหารที่สามารถปรุงรสได้ตามชอบ หากชอบรสชาติเผ็ดจัดก็สามารถเพิ่มพริกได้ตามต้องการ
ตารางปริมาณส่วนผสมสำหรับทำน้ำยาใต้
ส่วนผสม |
ปริมาณ |
พริกแห้งเม็ดใหญ่ |
100 กรัม |
หอมแดง |
100 กรัม |
กระเทียม |
50 กรัม |
กะปิ |
50 กรัม |
ขมิ้น |
10 กรัม |
ตะไคร้ |
3 ต้น |
ใบมะกรูด |
10 ใบ |
เกลือ |
1 ช้อนชา |
เนื้อสัตว์ |
500 กรัม |
กะทิ |
500 มิลลิลิตร |
ใบมะกรูดฉีก |
1 หยิบมือ |
พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ |
5-7 เม็ด |
น้ำตาลปี๊บ |
1 ช้อนโต๊ะ |
น้ำปลา |
1 ช้อนโต๊ะ |
น้ำมะขามเปียก |
1/2 ถ้วย |
ตารางคุณค่าทางโภชนาการของน้ำยาใต้
สารอาหาร |
ปริมาณต่อ 1 ถ้วย |
พลังงาน |
300 กิโลแคลอรี |
ไขมัน |
15 กรัม |
โปรตีน |
20 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต |
30 กรัม |
ตารางการจัดเตรียมและปรุงอาหาร
ขั้นตอน |
เวลา |
ทำเครื่องแกงเผ็ดใต้ |
15 นาที |
ผัดเครื่องแกง |
10 นาที |
ใส่กะทิและส่วนประกอบอื่นๆ |
5 นาที |
เคี่ยวจนได้ที่ |
15-20 นาที |
เสิร์ฟ |
ทันที |
ประโยชน์ของการรับประทานน้ำยาใต้
-
อุดมไปด้วยโปรตีน: เนื้อสัตว์ในน้ำยาใต้เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย
-
มีไขมันดี: กะทิในน้ำยาใต้เป็นแหล่งไขมันดีชนิดฟาง (HDL) ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL)
-
มีวิตามินและแร่ธาตุ: น้ำยาใต้มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม และโพแทสเซียม
-
ช่วยย่อยอาหาร: เครื่องเทศในน้ำยาใต้ เช่น ขมิ้น ตะไคร้ และใบมะกรูด มีคุณสมบัติช่วยย่อยอาหาร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร
ข้อควรระวัง
- น้ำยาใต้เป็นอาหารที่มีรสชาติจัด ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคไต โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานน้ำยาใต้
- การรับประทานน้ำยาใต้บ่อยๆ อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
เคล็ดลับเพิ่มความอร่อย
-
ใส่กะทิแยกกะทิ: การแยกกะทิเป็นหัวกะทิและหางกะทิ แล้วนำหัวกะทิไปผัดเครื่องแกงจะทำให้ได้น้ำยาใต้ที่มีรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น
-
ใส่ผักอื่นๆ ลงไป: นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว สามารถเพิ่มผักอื่นๆ ลงไปในน้ำยาใต้ได้ เช่น มะเขือเปราะ มะเขือยาว บวบ
-
โรยหน้าด้วยเครื่องสมุนไพร: โรยหน้าด้วยใบโหระพา ผักชีซอย พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ เพื่อเพิ่มความหอมและความอร่อย
-
ปรุงรสตามชอบ: น้ำยาใต้เป็นอาหารที่สามารถปรุงรสได้ตามชอบ หากชอบรสชาติเปรี้ยวจัดก็สามารถเพิ่มน้ำมะขามเปียกได้ตามต้องการ
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
-
ไม่ผัดเครื่องแกงให้นาน: การผัดเครื่องแกงไม่นานพอจะทำให้เครื่องแกงไม่หอมและรสชาติไม่อร่อย
-
ใส่กะทิลงไปเยอะเกินไป: การใส่กะทิลงไปเยอะเกินไปจะทำให้ได้น้ำยาใต้ที่แตกมันและเลี่ยน
-
ปรุงรสชาติจัดเกินไป: ต้องปรุงรสชาติให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่จัดเกินไปจะทำให้น้ำยาใต้ไม่อร่อย
-
เคี่ยวนานเกินไป: การเคี่ยวนานเกินไปจะทำให้เนื้อสัตว์แข็งและน้ำแกงงวดเกินไป
**คำถามที่พบบ่อย