ตำนานลับแลเมืองลับแล เมืองลับแลแห่งเมืองพัทลุง

เรื่องราวของเมืองลับแลได้ถูกเล่าขานกันมายาวนาน เป็นเรื่องราวลึกลับที่ชวนให้ค้นหา เกี่ยวกับเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก ผู้คนในเมืองมีรูปร่างเล็ก และมีวิทยาการความรู้ที่แปลกประหลาดกว่าคนปกติทั่วไป

ตำนานการกำเนิดเมืองลับแล

ตามตำนานเล่าว่า เมืองลับแลเกิดขึ้นจากการที่พระอินทร์ลงมาจากสวรรค์เพื่อสำรวจโลกมนุษย์ แต่เกิดหลงทางในป่าลึก จึงได้สร้างเมืองเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อเป็นที่พักพิง และได้ตั้งชื่อเมืองแห่งนี้ว่า "เมืองลับแล" ซึ่งแปลว่า "เมืองที่ซ่อนตัว"

ลักษณะของเมืองลับแล

เมืองลับแลเป็นเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก มีกำแพงเมืองล้อมรอบ และมีประตูเมืองเพียงแห่งเดียว ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มีรูปร่างเล็ก มีความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตรเท่านั้น ผิวพรรณขาวซีด มีดวงตาสีเขียว และมีหูที่ยาวแหลม

วิทยาการความรู้ของชาวลับแล

ชาวลับแลมีวิทยาการความรู้ที่แปลกประหลาดกว่าคนปกติทั่วไป เช่น สามารถหายตัวได้ มีความรู้ด้านสมุนไพร และสามารถพูดคุยกับสัตว์ได้ นอกจากนี้ ชาวลับแลยังมีอาวุธที่แปลกประหลาด เช่น หอกที่มีปลายแหลมเป็นเหล็กไหล และธนูที่มีลูกศรที่สามารถยิงได้ไกลกว่าปกติ

ความเชื่อเกี่ยวกับเมืองลับแล

มีหลายความเชื่อเกี่ยวกับเมืองลับแล เช่น ความเชื่อที่ว่า หากใครได้เข้าไปในเมืองลับแลแล้วจะไม่สามารถกลับออกมาได้อีก และความเชื่อที่ว่า หากใครได้กินอาหารของชาวลับแล จะกลายเป็นคนแคระไปตลอดชีวิต

ความจริงเกี่ยวกับเมืองลับแล

ถึงแม้ว่าตำนานเมืองลับแลจะเป็นเรื่องที่เล่าขานกันมายาวนาน แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่ยืนยันการมีอยู่ของเมืองลับแล นักโบราณคดีได้สำรวจพื้นที่ที่เชื่อว่าเป็นที่ตั้งของเมืองลับแล แต่ก็ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าเคยมีเมืองตั้งอยู่ที่นั่น

อย่างไรก็ตาม ตำนานเมืองลับแลก็ยังคงเป็นเรื่องราวที่ชวนให้ค้นหา และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมความเชื่อของชาวไทย

ตำนานเมืองลับแลที่เล่าขานกันมา

มีเรื่องเล่าขานกันมาหลายเรื่องเกี่ยวกับเมืองลับแล เช่น

• เรื่องเล่าของพระธุดงค์: เล่าว่ามีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้หลงทางเข้าไปในป่าลึก จนกระทั่งพบกับเมืองลับแล พระธุดงค์ได้เข้าไปในเมืองและได้พบกับชาวลับแลที่เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี แต่เมื่อพระธุดงค์ต้องการที่จะกลับออกมาจากเมืองลับแล ชาวลับแลก็ไม่ยอมให้กลับ และได้บอกว่าหากพระธุดงค์กินอาหารของชาวลับแลจะกลายเป็นคนแคระไปตลอดชีวิต พระธุดงค์จึงตัดสินใจที่จะไม่กินอาหารของชาวลับแล และได้หาทางออกจากเมืองลับแลจนสำเร็จ
• เรื่องเล่าของชาวบ้าน: เล่าว่ามีชาวบ้านคนหนึ่งได้เข้าไปในป่าลึกเพื่อหาของป่า จนกระทั่งพบกับเมืองลับแล ชาวบ้านได้เข้าไปในเมืองและได้พบกับชาวลับแลที่เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี ชาวบ้านได้อาศัยอยู่ในเมืองลับแลเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่งได้คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน จึงได้ขออนุญาตชาวลับแลให้กลับบ้าน ชาวลับแลก็อนุญาตให้กลับ แต่ได้กำชับว่าห้ามบอกเรื่องเมืองลับแลให้ใครฟัง ชาวบ้านได้กลับมาบ้านเกิดเมืองนอน และได้เล่าเรื่องเมืองลับแลให้เพื่อนบ้านฟัง เพื่อนบ้านจึงได้รู้เรื่องเมืองลับแลและได้เดินทางไปหาเมืองลับแล แต่ก็ไม่พบเมืองลับแลอีกเลย
• เรื่องเล่าของนักสำรวจ: เล่าว่ามีนักสำรวจกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปสำรวจป่าลึกเพื่อหาเมืองลับแล นักสำรวจได้เดินทางเป็นเวลาหลายวันจนกระทั่งพบกับเมืองลับแล นักสำรวจได้เข้าไปในเมืองและได้พบกับชาวลับแลที่เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี นักสำรวจได้อาศัยอยู่ในเมืองลับแลเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งได้รู้ความลับของชาวลับแล ชาวลับแลได้บอกกับนักสำรวจว่า เมืองลับแลเป็นเมืองที่มีวิทยาการความรู้ที่แปลกประหลาดกว่าคนปกติทั่วไป และชาวลับแลมีอาวุธที่แปลกประหลาด เช่น หอกที่มีปลายแหลมเป็นเหล็กไหล และธนูที่มีลูกศรที่สามารถยิงได้ไกลกว่าปกติ นักสำรวจได้ขออนุญาตชาวลับแลให้กลับบ้านเพื่อไปบอกเรื่องเมืองลับแลให้คนอื่นๆ ฟัง ชาวลับแลก็อนุญาตให้กลับ แต่ได้กำชับว่าห้ามบอกชื่อของเมืองลับแลให้ใครฟัง นักสำรวจได้กลับมาบ้านเกิดเมืองนอน และได้เล่าเรื่องเมืองลับแลให้เพื่อนบ้านฟัง แต่เพื่อนบ้านก็ไม่เชื่อเรื่องที่นักสำรวจเล่า นักสำรวจจึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับไปยังเมืองลับแลอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ให้เพื่อนบ้านเห็น แต่ก็ไม่พบเมืองลับแลอีกเลย

ประวัติความเป็นมาของเมืองลับแล

เมืองลับแลเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยมีการสันนิษฐานว่าเมืองลับแลน่าจะเกิดขึ้นในสมัยอยุธยา โดยมีกลุ่มคนที่หลบหนีจากการเกณฑ์ทหารมาตั้งถิ่นฐานในป่าลึก กลุ่มคนที่หลบหนีจากการเกณฑ์ทหารเหล่านี้ได้สร้างบ้านเรือนขึ้นมาในป่าลึก และได้มีการปกครองตนเอง โดยไม่ได้ขึ้นกับรัฐบาลกลาง กลุ่มคนที่หลบหนีจากการเกณฑ์ทหารเหล่านี้ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบเรียบง่ายในป่าลึกเป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่งมีคนกลุ่มหนึ่งได้เข้าไปในป่าลึกเพื่อหาของป่า จนกระทั่งได้พบกับเมืองลับแล คนกลุ่มนี้ได้นำเรื่องเมืองลับแลไปเล่าให้คนอื่นๆ ฟัง จนกระทั่งเรื่องเมืองลับแลได้แพร่กระจายไปทั่ว

การเดินทางไปยังเมืองลับแล

เมืองลับแลตั้งอยู่ในป่าลึก จึงทำให้การเดินทางไปยังเมืองลับแลเป็นเรื่องที่ยากลำบาก คนที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองลับแลต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าลึกเป็นเวลาหลายวัน โดยเส้นทางการเดินทางไปยังเมืองลับแลมีดังนี้

• เส้นทางที่ 1: เริ่มต้นจากอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เดินเท้าเข้าไปในป่าลึกเป็นเวลาประมาณ 3 วัน
• เส้นทางที่ 2: เริ่มต้นจากอำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เดินเท้าเข้าไปในป่าลึกเป็นเวลาประมาณ 2 วัน
• เส้นทางที่ 3: เริ่มต้นจากอำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง เดินเท้าเข้าไปในป่าลึกเป็นเวลาประมาณ 1 วัน

ข้อควรปฏิบัติเมื่อเดินทางไปยังเมืองลับแล

เมื่อเดินทางไปยังเมืองลับแล มีข้อควรปฏิบัติที่ควรทราบ ดังนี้

• แต่งกายให้เหมาะสม: ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่รัดกุมและสวมรองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินป่า
• เตรียมอาหารและน้ำให้เพียงพอ: ควรเตรียมอาหารและน้ำให้เพียงพอสำหรับการเดินทางเป็นเวลาหลายวัน
• มีเจ้าหน้าที่นำทาง: ควรมีเจ้าหน้าที่นำทางที่มีประสบการณ์ในการเดินทางในป่าลึก
• เคารพธรรมเนียมและประเพณีของชาวลับแล: เมื่อเข้าไปในเมืองลับแล ควรเคารพธรรมเนียมและประเพณีของชาวลับแล

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเมืองลับแล

• ชาวลับแลมีอายุขัยที่ยาวนานกว่าคนปกติทั่วไป โดยเฉลี่ยแล้วชาวลับแลจะมีอายุขัยประมาณ 120 ปี
• ชาวลับแลมีภาษาพูดและภาษาเขียนที่เป็นของตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากภาษาไทย
• ชาวลับแลมีความเชื่อในเรื่องผีสางเทวดา และ