Position:home  

ประเภทของการฉ้อโกงที่พบบ่อยที่สุด

80% ของการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเข้าข่ายนี้

ในยุคดิจิทัลที่การทำธุรกรรมทางการเงินส่วนใหญ่เกิดขึ้นทางออนไลน์และผ่านอุปกรณ์มือถือ การฉ้อโกงก็ได้กลายมาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสร้างความเสียหายอย่างมากแก่ทั้งบุคคลทั่วไปและธุรกิจ

เพื่อรับมือกับการคุกคามนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจประเภทต่างๆ ของการฉ้อโกง และวิธีการป้องกันการฉ้อโกงเหล่านี้

ประเภทของการฉ้อโกงที่พบบ่อยที่สุด

การโจรกรรมเอกลักษณ์

การโจรกรรมเอกลักษณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้กระทำความผิดใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อกระทำการฉ้อโกง เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร การขอสินเชื่อ หรือการทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ

ประเภท ของ

การฉ้อโกงบัตรเครดิต

การฉ้อโกงบัตรเครดิตเกิดขึ้นเมื่อผู้กระทำความผิดใช้ข้อมูลบัตรเครดิตของบุคคลอื่นเพื่อทำธุรกรรมการซื้อที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยข้อมูลบัตรเครดิตอาจถูกขโมยมาจากการโจรกรรมเอกลักษณ์ การโจมตีทางไซเบอร์ หรือการละเมิดข้อมูล

การฉ้อโกงการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

การฉ้อโกงการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นเมื่อผู้กระทำความผิดใช้ข้อมูลบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นเพื่อโอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยข้อมูลบัญชีธนาคารอาจถูกขโมยมาจากการโจรกรรมเอกลักษณ์ การโจมตีทางไซเบอร์ หรือการละเมิดข้อมูล

การฉ้อโกงธุรกิจกับธุรกิจ (B2B)

ประเภทของการฉ้อโกงที่พบบ่อยที่สุด

การฉ้อโกง B2B เกิดขึ้นเมื่อธุรกิจหนึ่งกระทำการฉ้อโกงกับธุรกิจอื่น เช่น การออกใบแจ้งหนี้ปลอม การไม่ส่งมอบสินค้าหรือบริการตามที่สั่งซื้อ หรือการใช้ข้อมูลธุรกิจของบริษัทอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต

การฉ้อโกงเช็ค

การฉ้อโกงเช็คเกิดขึ้นเมื่อผู้กระทำความผิดใช้เช็คปลอมหรือเช็คที่มีมูลค่าเกินจริงเพื่อรับเงินหรือทรัพย์สิน โดยเช็คอาจถูกขโมยมา ปลอมแปลง หรือใช้บัญชีธนาคารปลอม

กลยุทธ์การป้องกันการฉ้อโกงที่ได้ผล

การป้องกันการฉ้อโกงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มีกลยุทธ์บางอย่างที่ธุรกิจและบุคคลทั่วไปสามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น

การตรวจสอบตัวตนลูกค้า

การตรวจสอบตัวตนลูกค้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันการฉ้อโกง เพราะช่วยให้ธุรกิจสามารถยืนยันได้ว่าลูกค้าของตนเป็นบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับอนุญาตให้กระทำธุรกรรม

การโจรกรรมเอกลักษณ์

การตรวจสอบธุรกรรม

การตรวจสอบธุรกรรมช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุธุรกรรมที่น่าสงสัยและปฏิเสธธุรกรรมเหล่านั้นก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้น โดยระบบการตรวจสอบธุรกรรมสามารถใช้กฎการตรวจสอบต่างๆ เพื่อระบุพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น ธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงผิดปกติหรือธุรกรรมที่เกิดจากตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ผิดปกติ

การให้ความรู้แก่พนักงานและลูกค้า

การให้ความรู้แก่พนักงานและลูกค้าเกี่ยวกับการฉ้อโกงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการฉ้อโกง โดยการให้ความรู้จะช่วยให้พนักงานและลูกค้าสามารถระบุพฤติกรรมที่น่าสงสัยและรายงานพฤติกรรมดังกล่าวต่อฝ่ายที่เหมาะสม

เรื่องราวเกี่ยวกับการฉ้อโกง

เรื่องที่ 1

ชายชาวอเมริกันรายหนึ่งถูกหลอกให้ย้ายเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐไปยังบัญชีธนาคารของชายแปลกหน้าหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพากร ชายแปลกหน้ารายนี้บอกกับชายชาวอเมริกันว่าเขาเป็นหนี้ภาษีและจะถูกจับกุมหากไม่จ่ายภาษีทันที ชายชาวอเมริกันหลงกลและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารดังกล่าว หลังจากนั้นไม่นาน ชายชาวอเมริกันก็พบว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกง และเงินที่โอนไปก็สูญหายไป

เรื่องที่ 2

บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Amazon ถูกหลอกให้จ่ายเงิน 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ซัพพลายเออร์ปลอมที่ใช้ที่อยู่อีเมลปลอมเพื่อเลียนแบบซัพพลายเออร์ที่ถูกต้อง ซัพพลายเออร์ปลอมส่งใบแจ้งหนี้ปลอมให้กับ Amazon Amazon ตรวจสอบใบแจ้งหนี้และไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ จึงดำเนินการชำระเงิน หลังจากนั้นไม่นาน Amazon ก็พบว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกง และเงินที่จ่ายไปก็สูญหายไป

เรื่องที่ 3

หญิงสูงอายุรายหนึ่งสูญเสียเงินเกษียณอายุทั้งหมดหลังจากที่ถูกหลอกให้ลงทุนกับบริษัทที่รับประกันผลตอบแทนสูงผิดปกติ หญิงสูงอายุรายนี้ได้รับการติดต่อจากโบรกเกอร์ที่อ้างว่าทำงานให้กับบริษัทที่มีชื่อเสียง บริษัทดังกล่าวรับประกันว่าเธอจะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 20% ต่อปี หญิงสูงอายุรายนี้เชื่อคำโฆษณานี้และลงทุนเงินทั้งหมดที่เธอมีที่มีมูลค่า 500,000 เหรียญสหรัฐ หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทก็หายตัวไปพร้อมกับเงินของเธอ

ข้อผิดพลาดทั่วไปในการป้องกันการฉ้อโกง

มีข้อผิดพลาดทั่วไปบางประการที่ธุรกิจและบุคคลทั่วไปมักทำในการป้องกันการฉ้อโกง ได้แก่

  • การตรวจสอบตัวตนลูกค้าไม่เพียงพอ ธุรกิจจำนวนมากไม่ทำการตรวจสอบตัวตนลูกค้าอย่างเพียงพอ ซึ่งทำให้ผู้ฉ้อโกงสามารถเปิดบัญชีและกระทำธุรกรรมโดยใช้เอกลักษณ์ที่ขโมยมาได้
  • การตรวจสอบธุรกรรมไม่เพียงพอ ธุรกิจบางแห่งไม่ทำการตรวจสอบธุรกรรมอย่างเพียงพอ ซึ่งทำให้ผู้ฉ้อโกงสามารถกระทำธุรกรรมที่น่าสงสัยได้สำเร็จ
  • การขาดการให้ความรู้แก่พนักงานและลูกค้า ธุรกิจจำนวนมากไม่ให้ความรู้แก่พนักงานและลูกค้าเกี่ยวกับการฉ้อโกง ซึ่งทำให้พนักงานและลูกค้าระบุพฤติกรรมที่น่าสงสัยไม่ได้
  • การขาดมาตรการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพและทางไซเบอร์ที่เพียงพอ ธุรกิจบางแห่งขาดมาตรการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพและทางไซเบอร์ที่เพียงพอ ซึ่งทำให้ผู้ฉ้อโกงสามารถเข้าถึงข้อมูลและระบบของตนได้
  • การขาดแผนตอบสนองต่อการฉ้อโกง ธุรกิจจำนวนมากขาดแผนตอบสนองต่อการฉ้อโกง ซึ่งทำให้ธุรกิจไม่สามารถรับมือกับการฉ้อโกงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป

การฉ้อโกงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสร้างความเสียหายอย่างมากในปัจจุบัน โดยธุรกิจและบุคคลทั่วไปสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้โดยใช้กลยุทธ์การป้องกันการฉ้อโกงที่ได้ผลและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปที่มักพบในการป้องกันการฉ้อโกง

Time:2024-09-07 04:17:39 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss