การทอดปลาส้มให้ออกมาอร่อย กรอบนอก นุ่มใน ไม่ติดกระทะ เป็นเทคนิคที่สำคัญสำหรับการทำอาหารเมนูนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีเทศกาลต่างๆ ที่นิยมนำปลาส้มมาประกอบอาหาร ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวอมเค็มจากการหมักปลาด้วยเกลือและข้าวทำให้ปลาส้มเป็นอาหารที่ถูกปากคนไทยจำนวนมาก
ปลาส้ม เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสาน ที่ทำจากปลาน้ำจืดต่างๆ เช่น ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลาแรด โดยนำปลามาล้างทำความสะอาด ควักไส้และเหงือกออก แล้วนำไปหมักกับเกลือและข้าวเหนียวจนได้ที่ ปลาส้มที่ได้จะมีรสชาติเปรี้ยวอมเค็ม เนื้อนุ่ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
เลือกใช้กระทะเทฟลอน หรือกระทะที่มีสารเคลือบกันติด จะช่วยลดการติดกระทะได้ดี
ตั้งกระทะบนไฟกลาง รอให้กระทะร้อนจัด โดยทดสอบโดยการหยดน้ำลงไป หากน้ำระเหยไปอย่างรวดเร็วแสดงว่ากระทะร้อนได้ที่แล้ว
ใช้กระดาษซับเช็ดปลาส้มให้แห้งก่อนทอด เพื่อลดความชื้นและป้องกันไม่ให้ปลาส้มติดกระทะ
เริ่มทอดปลาส้มด้วยไฟอ่อนๆ เพื่อให้ปลาส้มสุกทั่วถึง
หากพบว่าปลาส้มติดกระทะ ให้ใช้ตะหลิวค่อยๆ เขี่ยออกอย่างเบามือ ไม่ควรใช้ตะหลิวกลับปลา เพราะอาจทำให้ปลาส้มแตกได้
ใช้เวลาทอดประมาณ 3-5 นาที หรือจนกว่าด้านหนึ่งของปลาส้มเหลืองกรอบ
เมื่อด้านหนึ่งเหลืองกรอบแล้ว ให้กลับด้านปลาส้มแล้วทอดต่ออีก 3-5 นาที จนอีกด้านเหลืองกรอบเช่นกัน
เมื่อปลาส้มเหลืองกรอบทั้งสองด้านแล้ว ให้ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมันบนกระดาษซับก่อนเสิร์ฟ
เพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อยให้กับปลาส้ม สามารถทำน้ำจิ้มปลาส้มได้ง่ายๆ โดยใช้
นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบแล้วเสิร์ฟพร้อมกับปลาส้มทอด
นอกจากความอร่อยแล้ว ปลาส้มยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย โดยเฉพาะปลาส้มที่หมักด้วยข้าวเหนียวจะยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ปลาส้มสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น
คุณยายท่านหนึ่งได้ทอดปลาส้มในกระทะที่ไม่ได้ตั้งให้ร้อนพอ ปรากฏว่าปลาส้มติดกระทะอยู่ครึ่งหนึ่ง จนคุณยายต้องหันไปมองหลานที่นั่งดูอยู่เพื่อขอความช่วยเหลือ หลานชายตัวน้อยจึงตอบกลับคุณยายด้วยความซื่อว่า "คุณยายทอดปลาส้มหรือทอดกระทะกันแน่"
คุณแม่ท่านหนึ่งได้ทอดปลาส้มหลายๆ ชิ้นพร้อมกัน แต่กลับลืมว่าปลาส้มมีน้ำมันเยอะ เมื่อทอดปลาส้มไปได้สักพัก น้ำมันก็กระเด็นเต็มไปหมด จนหน้าและแขนของคุณแม่เป็นรอยดวงแดงไปหมด คุณแม่จึงได้บทเรียนอันยิ่งใหญ่จากการทอดปลาส้มในครั้งนั้น
คุณพ่อท่านหนึ่งได้ทอดปลาส้มโดยตั้งไฟแรงจัดจนปลาส้มไหม้ดำ ทั้งนี้ เพราะคุณพ่อมัวแต่ตั้งใจดูโทรทัศน์จนลืมปลาส้มที่กำลังทอดอยู่ เมื่อคุณแม่กลับมาถึงบ้านและเห็นปลาส้มที่ไหม้ดำเกรียม จึงได้ต่อว่าคุณพ่อไปชุดใหญ่
เรื่องราวชวนขำเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าการทอดปลาส้มก็มีเรื่องราวและความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างไรก็ตาม หากทำตามเทคนิคที่แนะนำในบทความนี้ รับรองว่าทุกคนสามารถทอดปลาส้มได้อร่อย กรอบนอก นุ่มใน ไม่ติดกระทะอย่างแน่นอน
เวลาในการหมักปลาส้มขึ้นอยู่กับชนิดของปลาและสภาพอากาศ โดยทั่วไปปลาส้มจะหมักนานประมาณ 1-3 วัน ในอุณหภูมิห้อง
ปลาส้มที่หมักแล้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานประมาณ 2 สัปดาห์ หรือเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้นานประมาณ 2 เดือน
ปลาส้มสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามวิธีการหมัก ได้แก่ ปลาส้มแบบแห้ง และปลาส้มแบบเปียก
ความอร่อยของปลาส้มขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล โดยปลาส้มแบบแห้งจะมีรสชาติเปรี้ยวเค็มเข้มข้นกว่าปลาส้มแบบเปียก
ปลาส้มสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ทอด ต้ม ยำ แกง ผัด เป็นต้น
ปลาส้มเป็นแหล่งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่ดี ช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวม
ตารางที่ 1: ปริมาณสารอาหารในปลาส้มหมักด้วยข้าวเหนียว
| สารอาหาร | ปริ
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-04 18:12:39 UTC
2024-09-04 18:13:01 UTC
2024-07-31 04:40:26 UTC
2024-07-31 04:40:44 UTC
2024-07-31 04:41:04 UTC
2024-07-31 12:19:30 UTC
2024-07-31 12:20:20 UTC
2024-07-31 12:20:30 UTC
2024-10-19 01:33:05 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:01 UTC
2024-10-19 01:33:00 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC