Position:home  

ชีวิตที่มีสุขภาพดีเริ่มต้นจากการดื่มน้ำเปล่าสะอาด

น้ำหวาน...ภัยร้ายทำลายสุขภาพ

น้ำหวานเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่มีรสชาติหวานชื่นใจ แต่ทราบหรือไม่ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้แฝงไว้ด้วยอันตรายแอบแฝงมากมาย กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า น้ำหวานเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีเพียงน้ำตาลกับน้ำเปล่าเท่านั้น โดยน้ำตาลในน้ำหวานจะเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ได้ง่าย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากบริโภคน้ำหวานเป็นประจำ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

อันตรายจากการดื่มน้ำหวาน

การดื่มน้ำหวานเกินมาตรฐานส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมากมาย องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคน้ำตาลฟรีไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน แต่ปัจจุบันคนไทยบริโภคน้ำตาลฟรีโดยเฉลี่ย 21 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งเกินกว่าคำแนะนำถึง 3 เท่าตัว การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้แก่

  • โรคอ้วน น้ำตาลในน้ำหวานให้พลังงานสูงแต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ การดื่มน้ำหวานเป็นประจำจะทำให้สะสมไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น นำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนได้
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2 น้ำตาลในน้ำหวานจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสในเลือด เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จะกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาเพื่อช่วยดึงน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์ แต่เมื่อบริโภคน้ำหวานเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์ดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด น้ำตาลในน้ำหวานจะเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งเป็นชนิดของไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
  • โรคฟันผุ น้ำตาลในน้ำหวานเป็นอาหารของแบคทีเรียในช่องปาก แบคทีเรียจะใช้แป้งและน้ำตาลที่อยู่ในน้ำหวานผลิตกรดออกมาทำลายเคลือบฟันจนเกิดฟันผุได้

น้ำเปล่า...ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ

น้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน น้ำเปล่าช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำหน้าที่ต่างๆ ดังนี้

น้ํา หวาน ซาซ่า

  • รักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย น้ำเปล่าช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
  • ระบายของเสียออกจากร่างกาย น้ำเปล่าช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย โดยละลายของเสียต่างๆ แล้วขับออกทางปัสสาวะ
  • ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย น้ำเปล่าช่วยระบายความร้อนจากร่างกาย ทำให้อุณหภูมิของร่างกายคงที่
  • หล่อลื่นข้อต่อและอวัยวะต่างๆ น้ำเปล่าช่วยหล่อลื่นข้อต่อต่างๆ และอวัยวะในร่างกาย ทำให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น

การลดการดื่มน้ำหวาน

การลดการดื่มน้ำหวานเป็นก้าวแรกสำคัญในการมีสุขภาพที่ดี ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการลดการดื่มน้ำหวาน

  • ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เริ่มจากตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง เช่น ลดการดื่มน้ำหวานวันละ 1 แก้ว จากนั้นค่อยๆ ลดปริมาณลงเรื่อยๆ
  • ค่อยๆ ลดปริมาณ อย่าลดการดื่มน้ำหวานอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้เกิดอาการอยากน้ำหวานได้ ควรค่อยๆ ลดปริมาณลงทีละน้อย
  • ดื่มน้ำเปล่าแทน เมื่อรู้สึกอยากดื่มน้ำ ให้ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน น้ำเปล่าช่วยให้ร่างกายสดชื่นและดับกระหายได้ดีกว่าน้ำหวาน
  • ทำน้ำผลไม้ดื่มเอง หากรู้สึกอยากดื่มน้ำรสหวาน สามารถทำน้ำผลไม้ดื่มเองได้ โดยเลือกผลไม้ที่ชอบมาปั่นกับน้ำเปล่า น้ำผลไม้โฮมเมดจะให้ความหวานจากธรรมชาติและมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าน้ำหวาน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหวานในร้านอาหาร ร้านอาหารส่วนใหญ่มักมีเครื่องดื่มหวานๆ เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้หวาน และชาเย็น ให้เลี่ยงการสั่งเครื่องดื่มเหล่านี้ และเลือกดื่มน้ำเปล่าแทน

เรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ

ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์ดื่มน้ำหวานเป็นประจำและสามารถลดการดื่มได้สำเร็จ ต่างก็เล่าถึงประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับ ดังนี้

ชีวิตที่มีสุขภาพดีเริ่มต้นจากการดื่มน้ำเปล่าสะอาด

  • คุณสมชาย อายุ 35 ปี เคยดื่มน้ำอัดลมวันละ 2-3 กระป๋อง จนมีน้ำหนักขึ้นถึง 85 กิโลกรัม และตรวจพบว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 คุณสมชายจึงตัดสินใจลดการดื่มน้ำอัดลมและหันมาดื่มน้ำเปล่าแทน ปัจจุบันคุณสมชายสามารถลดน้ำหนักลงได้ 10 กิโลกรัม และระดับน้ำตาลในเลือดก็ลดลงจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ

  • คุณรัตนา อายุ 28 ปี เคยดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำ จนมีน้ำหนักขึ้นถึง 60 กิโลกรัม คุณรัตนาจึงเริ่มลดการดื่มชานมไข่มุกและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ปัจจุบันคุณรัตนาสามารถลดน้ำหนักลงได้ 5 กิโลกรัม และรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก

  • คุณสมพงษ์ อายุ 40 ปี เคยดื่มน้ำหวานเป็นประจำ จนเกิดอาการฟันผุหลายซี่ คุณสมพงษ์จึงตัดสินใจลดการดื่มน้ำหวานและแปรงฟันให้สะอาดเป็นประจำ ปัจจุบันฟันของคุณสมพงษ์แข็งแรงขึ้นมากและไม่มีอาการเสียวฟันอีกต่อไป

    น้ำหวาน...ภัยร้ายทำลายสุขภาพ

เคล็ดลับและคำแนะนำ

  • เตรียมน้ำเปล่าติดตัวไว้เสมอ เพื่อให้ดื่มน้ำเปล่าได้สะดวกในทุกที่ทุกเวลา
  • ตั้งนาฬิกาเตือนให้ดื่มน้ำเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ลืมดื่มน้ำ
  • ใช้วิธีจิบน้ำบ่อยๆ แทนการดื่มน้ำครั้งละมากๆ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหวานก่อนนอน เพราะจะทำให้เกิดอาการกระหายน้ำในตอนกลางคืน และอาจทำให้ตื่นกลางดึกได้
  • ถ้ารู้สึกอยากดื่มน้ำหวาน ให้กินผลไม้หรือดื่มน้ำสมูทตี้แทน

ตารางแสดงปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มชนิดต่างๆ

เครื่องดื่ม ปริมาณน้ำตาล (ช้อนชา)
น้ำอัดลม 1 กระป๋อง (330 มิลลิลิตร) 10
ชานมไข่มุก 1 แก้ว (500 มิลลิลิตร) 15
น้ำผลไม้ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) 10
น้ำหวาน 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) 15
กาแฟเย็น 1 แก้ว (500 มิลลิลิตร) 5

ตารางแสดงอันตรายของการดื่มน้ำหวานในปริมาณมาก

อันตราย อาการ
โรคอ้วน น้ำหนักขึ้น ไขมันสะสมรอบเอว
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 น้ำตาลในเลือ
Time:2024-09-08 04:07:59 UTC

newthai   

TOP 10
Don't miss