พะโล้ไก่ อาหารจานสุขภาพแสนอร่อยที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
พะโล้ไก่ เป็นอาหารไทยจานเด็ดที่ได้รับความนิยมมานานหลายศตวรรษ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมหอมเครื่องเทศและอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ จึงเป็นอาหารที่ครองใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน
ประวัติความเป็นมาของพะโล้ไก่
พะโล้ไก่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสตกาล - 220 ปีหลังคริสตกาล) โดยชาวจีนเรียกอาหารจานนี้ว่า "บะโลว" ซึ่งแปลว่าเนื้อตุ๋น โดยสูตรดั้งเดิมของพะโล้นั้นจะใช้เนื้อหมูสามชั้นตุ๋นกับเครื่องเทศนานาชนิด
เมื่อชาวจีนอพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย พวกเขาก็ได้นำสูตรอาหารพะโล้มาด้วย โดยได้ปรับเปลี่ยนสูตรให้เข้ากับวัตถุดิบและเครื่องเทศของไทย จนกลายมาเป็นพะโล้ไก่ที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
คุณค่าทางโภชนาการของพะโล้ไก่
พะโล้ไก่เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีนจากเนื้อไก่และเครื่องในสัตว์ต่างๆ รวมถึงมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย เช่น
-
โปรตีน: ไก่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
-
ไขมัน: พะโล้ไก่มีไขมันจากน้ำมันพืชและหนังไก่ ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
-
คาร์โบไฮเดรต: พะโล้ไก่มีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณน้อยจากเครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น น้ำตาลและซีอิ๊ว
-
วิตามินบี: เครื่องในสัตว์ต่างๆ ที่ใส่ในพะโล้ เช่น ตับและหัวใจ เป็นแหล่งวิตามินบีชั้นดี
-
วิตามินซี: ผักต่างๆ ที่ใส่ในพะโล้ เช่น กะหล่ำปลีและแครอท เป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี
-
แคลเซียม: กระดูกไก่และเนื้อเครื่องในต่างๆ เป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี
-
ธาตุเหล็ก: เครื่องในสัตว์ต่างๆ ที่ใส่ในพะโล้ เช่น ตับและหัวใจ เป็นแหล่งธาตุเหล็กชั้นดี
โดยทั่วไป พะโล้ไก่ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 180 แคลอรี่ โปรตีน 15 กรัม ไขมัน 10 กรัม คาร์โบไฮเดรต 10 กรัม วิตามินบี 12 0.5 ไมโครกรัม วิตามินซี 5 มิลลิกรัม แคลเซียม 25 มิลลิกรัม และธาตุเหล็ก 1.5 มิลลิกรัม
ประโยชน์ต่อสุขภาพของพะโล้ไก่
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูง พะโล้ไก่จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น
-
บำรุงหัวใจ: ไขมันดีในพะโล้ไก่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
-
บำรุงกระดูกและฟัน: แคลเซียมในพะโล้ไก่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
-
บำรุงระบบประสาท: วิตามินบีในพะโล้ไก่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
-
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: วิตามินซีในพะโล้ไก่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
-
บรรเทาอาการหวัด: เครื่องเทศในพะโล้ไก่ เช่น พริกไทยดำและอบเชย มีฤทธิ์บรรเทาอาการหวัดและคัดจมูก
-
ช่วยย่อยอาหาร: เครื่องเทศในพะโล้ไก่ เช่น กระเทียมและขิง มีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหารและลดอาการท้องอืด
-
ลดความเครียด: เครื่องเทศในพะโล้ไก่ เช่น กานพลูและอบเชย มีฤทธิ์ลดความเครียดและช่วยให้ผ่อนคลาย
วิธีการทำพะโล้ไก่
ส่วนผสม:
- ไก่ทั้งตัว (ประมาณ 1.5 กิโลกรัม)
- เครื่องในไก่ (ตับ หัวใจ กระเพาะ)
- เครื่องเทศพะโล้ (ผงพะโล้ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาลปี๊บ)
- กะหล่ำปลี
- แครอท
- หัวไชเท้า
- ไข่ต้ม
- เต้าหู้
- ผักชี
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างไก่และเครื่องในให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ
- นำเครื่องเทศพะโล้ ผงพะโล้ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ และน้ำตาลปี๊บ ผสมลงในหม้อใบใหญ่
- เติมน้ำลงในหม้อจนท่วมไก่และเครื่องใน แล้วนำขึ้นตั้งไฟ
- เมื่อน้ำเดือด ให้ลดไฟลงแล้วเคี่ยวต่อประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าไก่และเครื่องในนุ่ม
- ใส่กะหล่ำปลี แครอท หัวไชเท้า ไข่ต้ม และเต้าหู้ ลงในหม้อ
- เคี่ยวต่อประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าผักสุกนุ่ม
- ปรุงรสชาติด้วยเครื่องปรุงรสต่างๆ ตามชอบ
- โรยหน้าด้วยผักชีก่อนเสิร์ฟ
กลยุทธ์ในการทำพะโล้ไก่ให้อร่อย
-
เลือกใช้ไก่และเครื่องในคุณภาพดี: ไก่และเครื่องในที่สดใหม่จะทำให้พะโล้ไก่มีรสชาติหวานอร่อยมากยิ่งขึ้น
-
ใช้เครื่องเทศพะโล้ให้ครบถ้วน: เครื่องเทศพะโล้เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้พะโล้ไก่มีรสชาติหอมเครื่องเทศ
-
เคี่ยวพะโล้ไก่ให้นานพอ: การเคี่ยวนานจะทำให้เนื้อไก่และเครื่องในนุ่มและรสชาติซึมเข้าเนื้อ
-
ปรุงรสชาติด้วยความพอดี: การปรุงรสชาติด้วยเครื่องปรุงรสต่างๆ อย่างพอดีจะช่วยให้พะโล้ไก่มีรสชาติกลมกล่อมไม่เค็มหรือหวานเกินไป
-
ตกแต่งด้วยผักชี: ผักชีจะช่วยเพิ่มสีสันและความหอมให้กับพะโล้ไก่
เคล็ดลับการทำพะโล้ไก่
-
ใช้หม้อแรงดันในการเคี่ยว: การใช้หม้อแรงดันจะช่วยให้พะโล้ไก่เคี่ยวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
-
ใส่หอมแดงลงไปในหม้อ: หอมแดงจะช่วยเพิ่มความหอมและความหวานให้กับพะโล้ไก่
-
ใส่เครื่องเทศพะโล้ลงไปตอนสุดท้าย: การใส่เครื่องเทศพะโล้ลงไปตอนสุดท้ายจะช่วยให้เครื่องเทศยังคงความหอมอยู่
-
ใส่ผักลงไปทีหลัง: การใส่ผักลงไปทีหลังจะช่วยป้องกันไม่ให้ผักเละจนเกินไป
-
เสิร์ฟพะโล้ไก่พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ: ข้าวสวยร้อนๆ จะช่วยซับน้ำซอสพะโล้ไก่ได้ดี
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการทำพะโล้ไก่
-
ใช้ไก่หรือเครื่องในไม่สด: ไก่หรือเครื่องในที่ไม่สดจะทำให้พะโล้ไก่มีกลิ่นเหม็นและรสชาติไม่อร่อย
-
ใส่เครื่องเทศพะโล้ไม่ครบถ้วน: การใส่เครื่องเทศพะโล้ไม่ครบถ้วนจะทำให้พะโล้ไก่ขาดรสชาติหอมเครื่องเทศ
-
เคี่ยวพะโล้ไก่ไม่นานพอ: การเคี่ยวนานไม่พอจะทำให้เนื้อไก่และเครื่องในเหนียวและไม่อร่อย
-
ปรุงรสชาติมากเกินไป: การปรุงรสชาติมากเกินไปจะทำให้พะโล้ไก่มีรสชาติเค็มหรือหวานเกินไป
-
ใส่ผักลงไปพร้อมกับไก่: การใส่ผักลงไปพร้อมกับไก่จะทำให้ผักเละจนเกินไป
สรุป