OPD ย่อมาจาก Outpatient Department หมายถึง หน่วยงานในโรงพยาบาลที่ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอก เว้นแต่ที่ต้องรับไว้รักษาค้างคืนในโรงพยาบาล
ในปัจจุบัน เมื่อผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือมีปัญหาสุขภาพ พวกเขามักจะเริ่มต้นที่แผนกผู้ป่วยนอก (OPD) ก่อน OPD จึงเป็นด่านหน้าในการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยมีหน้าที่หลักดังนี้
บริการ OPD แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. บริการ OPD ทั่วไป
เป็นบริการที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วไปที่มีอาการเจ็บป่วยไม่รุนแรง โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เช่น ไข้หวัด ปวดหัว ท้องเสีย เป็นต้น
2. บริการ OPD เฉพาะทาง
เป็นบริการที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยที่ซับซ้อน หรือมีอาการเฉพาะทาง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคไต เป็นต้น บริการ OPD เฉพาะทางมักจะอยู่ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ก่อนรับบริการ OPD ผู้ป่วยควรเตรียมตัวดังนี้
ขั้นตอนการใช้บริการ OPD ทั่วไป มีดังนี้
หมายเหตุ: ขั้นตอนการใช้บริการ OPD อาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล
การใช้บริการ OPD มีประโยชน์หลายประการ เช่น
ข้อควรระวังในการใช้บริการ OPD มีดังนี้
เรื่องเล่าจาก OPD เป็นเรื่องราวที่ได้จากการทำงานในแผนก OPD ซึ่งสามารถนำมาเป็นบทเรียนเพื่อการดูแลสุขภาพได้
เรื่องที่ 1
ชายหนุ่มอายุ 30 ปี มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดหัวมานาน 1 เดือน แพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง แพทย์จึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและจ่ายยาเพื่อลดความดันโลหิตให้
หลังจากนั้น 1 เดือน ชายหนุ่มกลับมาพบแพทย์อีกครั้ง อาการปวดหัวดีขึ้นมาก แพทย์ตรวจร่างกายและพบว่าความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ชายหนุ่มบอกว่าเขารับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และดูแลสุขภาพตามที่แพทย์แนะนำ
บทเรียน: โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการในระยะแรก หากปล่อยให้โรคลุกลามจนรุนแรงอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต เป็นต้น การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถตรวจพบโรคความดันโลหิตสูงในระยะแรกและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
เรื่องที่ 2
หญิงสาวอายุ 25 ปี มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้องบริเวณด้านขวา แพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี แพทย์จึงนัดผู้ป่วยไปผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก
หลังผ่าตัด หญิงสาวกลับมาพบแพทย์อีกครั้งเพื่อตรวจติดตามผลการผ่าตัด อาการปวดท้องของหญิงสาวดีขึ้นมาก แพทย์ตรวจร่างกายและพบว่าแผลผ่าตัดหายดีแล้ว หญิงสาวบอกว่าหลังจากผ่าตัดแล้วเธอรู้สึกสบายขึ้นมาก
บทเรียน: โรคนิ่วในถุงน้ำดีเป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย หากปล่อยให้โรคลุกลามจนรุนแรงอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น การอักเสบของถุงน้ำดี การติดเชื้อในถุงน้ำดี ภาวะถุงน้ำดีแตก การผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถตรวจพบโรคนิ่วในถุงน้ำดีในระยะแรกและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
เรื่องที่ 3
ชายวัยกลางคนอายุ 45 ปี มาพบแพทย์ด้วยอาการไอเรื้อรัง แพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าเป็นโรคหืด แพทย์จึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและจ่ายยาเพื่อลดอาการหอบหืดให้
หลังจากนั้น 1 เดือน ชายวัยกลางคนกลับมาพบแพทย์อีกครั้ง อาการไอดีขึ้นมาก แพทย์ตรวจร่างกายและพบว่าอาการหอบหืดดีขึ้นมาก ชายวัยกลางคนบอกว่าเขารับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และดูแลสุขภาพตามที่แพทย์แนะนำ
บทเรียน: โรคหืดเป็นโรคเรื้อรังที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย หากปล่อยให้โรคลุกลามจนรุนแรงอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น การอักเสบของหลอดลม การติดเชื้อในปอด ภาวะหอบหืดรุนแรง การรักษาโรคหืดโดยใช้ยาและการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
เคล็ดลับการใช้บริการ OPD ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพมีดังนี้
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-13 06:36:23 UTC
2024-09-05 09:08:34 UTC
2024-09-05 09:09:02 UTC
2024-08-16 14:24:32 UTC
2024-08-16 14:25:01 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC